ช่วงสองสามปีก่อน ผมชอบดูหมอดูมากพอสมควร
ยี่ห้อไหนที่บอกว่าแม่นโครตพ่อ จะตามไปดูหมด (ถ้าไปได้)
จากที่เจอมา
60% มักจะทายอดีตแม่น (~2-5 ปี ก่อน)
40% มักจะทายปัจจุบัน (~2 เดือนก่อน- ปัจจุบัน)
5% ที่มักจะทายอนาคตแม่น (1 เดือนข้างหน้าเป็นต้นไป)
หมอดูมักจะบอกทำนองว่า เฮ้ย อีก 1 เดือนดวงจะดีมาก
หรือ คุณต้องไปทำบุญบ้างนะ อาทิตย์หน้าดวงตกมาก
เก่งหน่อยก็จะลงรายละเอียดเลย ว่า
จะได้เงินก้อนใหญ่ หลักหมื่น
จะเจอคนรัก ขาวหมวยสวยเอ็กซ์
จะขี้ไม่ออกสามวัน ระวังไว้
บลาบลาบลา…
จะแม่นไม่แม่นก็ว่ากันไป ตามเรื่องตามราว
ตรงนั้นช่างมัน เรื่องของรายละเอียด
บางทีผมก็คิดเหมือนกันนะว่า
เกณฑ์อะไรที่จะทำให้เรารู้ด้วยตนเองว่า
ช่วงนี้เราดวงดี เราดวงตก?
หลายครั้งผมมักพบว่า ตอนนี้ผมเจอสิ่งไม่ดี
แต่เพราะสิ่งไม่ดีนั่นแหละ พาไปหาสิ่งดี
หรือตรงกันข้ามกันที่เจอสิ่งดีแต่พาไปหาสิ่งไม่ดี
คล้ายๆ กับ หนังเรื่อง YES MAN
(ใครยังไม่เคยดู แนะนำให้ดูครับ สอนอะไรได้หลายอย่าง)
ผมรู้สึกคิดได้ว่า
ไอ้สิ่งที่ดี มันคือ สิ่งที่เราถูกใจ
และ
ไอ้สิ่งที่ไม่ดี มันคือ สิ่งที่เราไม่ถูกใจ
ทั้งๆ ที่โลกมันก็เป็นไปของมันแบบนั้นตามปัจจัยต่างๆ นานาอย่างไม่มีอะไรผิดปกติ..
เช่น คนเล่นไพ่ วันนี้ได้เงินบอกว่าดวงดีเพราะถูกใจตน
แต่อีกวันเสียเงิน บ่นดวงตกเพราะไม่ถูกใจตน
ผมชอบประโยคหนึ่งนะ และอยากแบ่งปันให้คุณชอบด้วย
“สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ”
ไม่ว่ามันจะดี หรือ เลว
แต่เราก็ผ่านมันมาแล้ว
จนเราเป็นเราได้แบบในทุกวันนี้
มันไม่ดีหรอ?
สิ่งไม่ดีที่ผ่านมา ก็เป็นบทเรียนชีวิต
สิ่งดีที่ผ่านมา ก็เป็นบทเรียนชีวิต
มันก็ได้เรียน รู้เหมือนกัน
ต่างกันแค่ คุณพอใจหรือไม่พอใจแค่นั้นเอง
หากเป็นตะวันตก จะดีหรือไม่ดี คงบอกว่าให้คุณ think positive เข้าไว้
หรือคุณคิดอย่างไร?