Author Archives: ชิตพงษ์ วุทธานันท์

ลูกเดือย ธัญพืชดีๆ สำหรับคนนอนไม่หลับ

เชื่อว่าคนเมืองใหญ่หลายๆ คน คงกำลังเกิดอาการนอนไม่หลับ ทั้งๆ ที่บางครั้งเหนื่อยแสนเหนื่อย ทั้งยังเกิดอาการล้าสายตาและเกิดปวดหลังอันเนื่องมาจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ครั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องนอน แต่กลับข่มตาเท่าไหร่ก็หลับไม่ลงซะที หรือถ้าหลับก็จะเกิดอาการกระสับกระส่ายนอนไม่เต็มตา เหมือนว่ากำลังตื่นตลอดเวลา เมื่อเกิดอาการเช่นนี้บ่อยๆ เข้า ก็หันไปพึ่งยานอนหลับ

คุณรู้หรือเปล่าว่า ยานอนหลับไม่ใช่เป็นยาแก้ แต่เป็นยาบังคับประสาทที่สั่งให้เราหลับ ดังนั้นมันก็คือ สิ่งที่ฝืนธรรมชาติ และจะดีกว่ามั๊ย ถ้าคุณจะหันมาให้ธรรมชาติ เป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณหลับสบาย ซึ่งธรรมชาติที่ว่านี้ก็คือ มหัศจรรย์ของเมล็ดธัญพืชเม็ดกลมๆ อ้วนๆ สีขาว รสชาติหวานมันอย่าง “ลูกเดือย” ซึ่งคุณอาจจะมองข้ามความสำคัญของลูกไป ที่สามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ค่ะ

สารอาหารในลูกเดือย
ลูกเดือยมีสารอาหารมากมายที่คุณคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 1 วิตามินเอ โพแทสเซียม โปรตีนคุณภาพสูงเทียบเท่าโปรตีนที่ได้จากข้าวโอ๊ต ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม ใยอาหาร และกรดอะมิโน ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นค่ะ เพราะกรดอะมิโนตัวนี้จะสามารถเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์สมองหลั่งสารที่ทำให้นอนหลับ สมองก็จะพักการทำงานชั่วคราว หลังจากที่ทำงานมาอย่างหนักตลอดทั้งวัน

เมนูสำหรับคนนอนไม่หลับกับลูกเดือย
สำหรับคนที่นอนไม่หลับ ให้เปลี่ยนจากการทานยานอนหลับ มาเป็นดื่มน้ำลูกเดือยอุ่นๆ ก่อนนอนดีกว่านะคะ โดยใช้ลูกเดือยต้มประมาณ 9-15 กรัม ผสมกับปั้วแห่(สมุนไพรจีน) 5 กรัม ต้มกับน้ำ รอให้อุ่นแล้วค่อยๆ ดื่ม แต่ถ้าไม่ชอบดื่มน้ำลูกเดือยโดยตรง ก็สามารถเลือกดื่มเครื่องดื่มธัญพืชที่มีส่วนผสมของลูกเดือย ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน และอย่าลืมดื่มตอนอุ่นๆ ก่อนนอนนะคะ ทั้งยังเหมาะกับการให้เด็กๆ ได้ดื่มก่อนนอน เพื่อให้เช้าวันรุ่งขึ้น เด็กๆ มีระบบขับถ่ายที่ดีได้ด้วย

มื้อเย็นเป็นข้าวต้มผสมลูกเดือย ทานคู่กับอาหารที่ย่อยง่ายและมีไฟเบอร์สูงอย่าง ปลาทูทอด ผัดผักรวมมิตร ซึ่งจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้คุณควรรับประทานมื้อเย็นก่อนเวลา 18.00 น. เพื่อให้ระบบเผาพลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เพราะจะย่อยช้าแล้วคุณก็ยังนอนไม่หลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดอาหารอึดอัดในกระเพาะ

สำหรับมื้อเช้า อาจดื่มน้ำเต้าหู้ผสมลูกเดือย หรือดิ่มเครื่องดื่มธัญพืชที่มีส่วนผสมของลูกเดือย ก็จะช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดี นอกจากนี้ในตำราจีนยังมักใช้ลูกเดือยบดผสมข้าว ต้มเป็นข้าวต้มรับประทานทุกวัน เพื่อบำรุงกำลังให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

ประโยชน์ดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากลูกเดือยจะเป็นยาธรรมชาติที่ช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นยาลดไข้ แก้ร้อนใน ขับปัสสาวะ ชงกินขับพยาธิ เป็นตัวช่วยย่อยอาหาร เป็นยาลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านทานป้องกันหวัด บำรุงไต ลดความดันในเลือดได้ด้วย

แต่เมื่อมองกันดีๆ แล้วสาเหตุของการนอนไม่หลับนั้น มาจากความเครียดหรือการมีเรื่องทุกข์กังวลอยู่ในใจ ทำให้กระบวนการทางความคิดของสมองทำงานอยู่ตลอดเวลา สมองจึงไม่ได้พักผ่อน คุณจึงไม่หลับค่ะ ซึ่งถ้าคุณต้องการนอนให้หลับจริงๆ นั้น นอกจากเลือกรับประทานลูกเดือยแล้ว คุณต้องจัดการกับความเครียดของคุณเป็นอันดับแรก แล้วเลือกนอนให้ห้องที่เงียบ อากาศถ่ายเทสะดวกอยู่ในระดับที่ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป

ก่อนนอนนอกจากดื่มน้ำลูกเดือยอุ่นๆ แล้ว ก็อาจสวดมนตร์ไหว้พระหรือนั่งสมาธิ เพื่อให้จิตใจและสมองผ่อนคลาย หรืออ่านหนังสือเพื่อให้ง่วง และยังมีเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือ ก่อนนอนลองลืมตา อย่าคิดอะไรทั้งสิ้น เชื่อว่าไม่นานสักพักหนังตาของคุณจะหรี่ลงและหลับลงในที่สุด

หวังว่าคืนนี้คุณคงไม่ต้องใช้แกะมานอนนับให้สมองยิ่งทำงาน หลับฝันดีนะคะ!

Tip
เวลาที่ดีที่สุดของการนอนหลับคือ ก่อนเวลา 22.00 น.เนื่องจากหลังช่วยเวลาดังกล่าวแล้ว ร่างกายจะทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขับของเสียตามอวัยวะต่างๆ ย่อยอาหารให้หมดและยังช่วยฟื้นฟูผิวพรรณ
เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
จาก Ovaltine 5 Grains

Share

ดื่มน้ำอย่างไรให้ถูกวิธี

“น้ำ”เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมากกว่าอาหาร คนเราสามารถอดอาหารเป็นระยะเวลานานๆ ได้ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้นานเกินกว่า 4 วัน การดื่มน้ำในแต่ละวันก็ส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกันนะคะ ซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่า คุณอาจจะกำลังดื่มน้ำแบบผิดวิธีอยู่ก็ได้ค่ะ

ดื่มน้ำมากเกินไป ร่างกายก็เหมือนแก้วน้ำล้น
หลายคนคงเข้าใจว่า เมื่อร่างกายต้องการน้ำจึงดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ผลที่ตามมาก็คือ เกิดอาการท้องอืด ปัสสาวะบ่อย แล้วสีของปัสสาวะก็จะใส ซึ่งการปัสสาวะที่อยู่ในระดับปกติจะออกสีเหลืองอ่อน และถ้าขาดน้ำ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม และเมื่อปัสสาวะบ่อยๆ นานๆ เข้า ทั้งยังไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำอีกหรือชอบกลั้นปัสสาวะ ก็จะเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

ดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายก็เหมือนต้นไม้เหี่ยวเฉา
การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แต่ถ้าดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยต่อความต้องการของร่างกาย ผิวหนัง ผิวกายและเส้นต่างๆ ก็จะตึง เพราะเลือดจะข้นมาก ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยการสูบฉีดเลือดซึ่งเป็นไปอย่างความยากลำบาก การส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะทำงานช้าลง แต่ถ้ารับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะน้ำก็จะเข้าไปรวมตัวกับเลือด เพื่อให้เลือดลดปริมาณความข้น หัวใจก็สามารถสูบฉีดเลือดได้สะดวกและการนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ง่ายขึ้น
ดื่มน้ำให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายดีที่สุด

การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ทำให้กล้ามเยื้อของเรามีความชุ่มชื้น ผิวหนังดูสดใสเปล่งปลั่ง ใบหน้ามีเลือดฝาด ยังช่วยในการเผาพลาญไขมันที่ต้องกำจัด เพราะไตทำงานได้ดีและเป็นปกติ

ควร/ไม่ควรในการดื่มน้ำเพื่อให้มีสุขภาพดี
ควร… ดื่มน้ำทีละอึก ค่อยๆ ดื่ม เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า
ไม่ควร… ดื่มน้ำรวดเดียวหมด เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ช้าและยังเกิดอาการจุกเสียดกระเพาะและอึดอัดท้อง

ควร… ดื่มน้ำอุ่นตอนเช้า 3-5 แก้วเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียและสารพิษในร่างกาย
ไม่ควร… ดื่มน้ำเย็นก่อนนอน เพราะจะทำให้เวลากลางคืนที่คุณหลับ จะลุกขึ้นมาปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้การนอนหลับของคุณขาดช่วง เท่ากับว่าคุณต้องไปเริ่มกระบวนการพักผ่อนใหม่อีกครั้ง (ควรดื่มน้ำอุ่นแทนการดื่มน้ำเย็น เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติ)

ควร… ดื่มน้ำผลไม้ ชนิดไม่แยกกาก หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืชชงร้อนๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นและเติมไฟเบอร์ให้ร่างกาย การขับถ่ายก็จะง่ายขึ้น
ไม่ควร… ดื่มน้ำอัดลม เพราะยิ่งจะไปเพิ่มปริมาณแก๊สในกระเพาะ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย

ควร… ดื่มน้ำหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 15-30 นาที เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยให้หมด
ไม่ควร… ดื่มน้ำตามเวลารับประทานอาหาร เพื่อจะทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปเข้าอืด ส่งผลให้อาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดอาการปวดท้อง (แต่สามารถจิบน้ำซุประหว่างรับประทานอาหารได้)

แค่คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำ คุณก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ง่ายๆ แล้วค่ะ
เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ

Share

สุขภาพดีด้วย “วารีบำบัด”

น้ำ นอกจากจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เพื่อให้ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพและบรรเทาอาการเจ็บปวดเบื้องต้นต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า “วารีบำบัด” ซึ่งสามารถบำบัดได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยใช้น้ำในหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งจะเหมาะสมและสัมพันธ์กับอาการที่เกิดขึ้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดจะบำบัดด้วยน้ำแบบสบายๆ แล้ว วารีบำบัดก็เป็นหนทางเลือกต้นๆ ที่ช่วยคุณได้ค่ะ

วารีบำบัด เป็นวิธีที่ใช้ธรรมชาติเข้ามากระตุ้นประสิทธิภาพของระบบภูมิต้านทานโดยเฉพาะ ซึ่งมีวิธีการบำบัดอย่างง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้ไม่ยากค่ะ

นั่งแช่ในน้ำอุ่น
ให้คุณแช่ตัวลงในอ่างน้ำอุ่น โดยใช้อ่างขนาดใหญ่ 2 ใบ ใบหนึ่งใส่น้ำอุ่น ใบหนึ่งใส่น้ำเย็น ให้คุณนั่งลงในอ่างน้ำอุ่นแล้วแช่เท้าในอ่างน้ำเย็นนาน 3 นาที จากนั้นก็สลับข้างกันนาน 1 นาที ทำซ้ำ2-3 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยคลายอาการปวดข้อเจ็บคอและมีไข้สูงได้ รวมทั้งยังเป็นการผ่อนคลาย เมื่อคุณทำงานหนักมาทั้งวัน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาที่ช่องคลอดหรือทวารหนัก สามารถแช่ในน้ำอุ่น เพื่อบรรเทาอาการของอาการริดสีดวงและช่วยให้การขับถ่าย(ในกรณีที่ท้องผูก) ได้ง่ายขึ้น และสามารถบรรเทาอาการติดเชื้อในช่องคลอด และเมื่อขึ้นมาจากนั่งแช่ในน้ำอุ่นแล้ว ได้จิบเครื่องดื่มธัญพืชอุ่นๆ สักแก้วก็สบายและอิ่มท้องแบบเบาๆ ได้ด้วยค่ะ

ประคบเย็น
การประคบเย็นเป็นการบำบัดรักษาอาการต่างๆ อาการปวดข้อต่างๆ ปวดหัวหรือหลอดลมอักเสบ และสำรับการป้องกันหรือรักษาอาการหวัด สามารถประคบเย็นได้ทั้งตัว โดยการนำผ้าขนหนูผืนแรกมาปูรองนอน ใช้ผ้าขนหนูผืนที่ 2 ชุบน้ำเย็นแล้วบิดให้หมาดวางทับผ้าขนหนูผืนแรก แล้วนอนลงทับผ้าขนหนูที่ชุบน้ำแล้วประคบรอบตัว จากนั้นก็นำผ้าขนหนูผืนที่ 3 มาพันทับอีกชั้นหนึ่งแล้วใช้เข็มกลัดยืดเอาไว้ ประคบนานประมาณ 3 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ เมื่อรู้สึกว่าผ้าอุ่นขึ้นภายใน 10 นาที ถ้าผ้ายังเย็นอยู่แสดงว่าเปียกเกินไป หรือร่างกายของคุณไม่พร้อมรับการประคบเย็น ในกรณีนี้ก็ต้องเลิกประคบ แล้วหันไปใช้วิธีอื่นแทน

ประคบร้อน
เป็นวิธีการบำบัดที่ช่วยในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เพราะความร้อนทำให้เหงื่อออกและรูขุมขนเปิด ทั้งยังช่วยให้เลี้ยงไปหล่อเลี้ยงส่วนที่เกิดอาการบวมและปวดได้ โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน ห่อบริเวณที่เจ็บหรือทั่วตัว ทิ้งไว้จนผ้าเย็นอาการก็จะทุเลาลง การอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการผ่อนคลายความเครียดและความเมื่อยล้าของแขนและขา ทั้งยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดีอีกด้วย

เข้ากระโจมสมุนไพรสูดไอน้ำ
เป็นวิธีแบบชาวบ้านที่ช่วยในเรื่องของการบรรเทาอาการหวัด และทำความสะอาดปอด โดยการต้มสมุนไพรไทย อาทิ ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด ให้เดือด แล้วใช้ผ้าห่มผืนใหญ่คลุมหม้อต้มสมุนไพรพร้อมกับนำตัวเราเข้าไปอยู่ในกระโจมนี้ไว้ แล้วสูดเอาไอน้ำอย่างช้าๆ อยู่ในกระโจมประมาณ 10-15 นาที คุณก็จะรู้สึกดีขึ้นและอาการคัดจมูกก็จะทุเลาลง

นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ อาทิ การอบซาวน่า แช่น้ำในอ่างน้ำวนจากุนชี่ เป็นต้น แล้วคุณจะเชื่อว่าน้ำเป็นพลังธรรมชาติที่สามารถบำบัดและดูแลสุขภาพให้คุณได้ และอย่าลืมดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืช ที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน เพื่อให้คุณพร้อมและมีร่างกายสดใสแข็งแรงนะคะ

เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
จาก Ovaltine 5 Grains

Share