Author Archives: ชิตพงษ์ วุทธานันท์

เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งโลก software โดดมาเล่นเรื่องสุขภาพ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา (ถ้าจำไม่ผิด 1-2 ปีที่แล้ว) บิล เกต ผู้ก่อตั้ง Microsoft บริษัทซอฟร์แวร์อันดับหนึ่งของโลก ผู้พัฒนา Microsoft Windows และ Office ที่เรารู้จักกันดี ได้ซื้อบริษัทผลิตยา แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการประกาศศักราชใหม่ว่า Microsoft สนใจในเรื่องของ nano และ สุขภาพ มาวันนี้ Microsoft ได้เปิดตัวเว็บไซต์เพื่อสุขภาพ ชื่อ healthvault.com มันมีอะไรบ้าง ลองอ่านดูนะครับ

มาดใหม่ไมโครซอฟท์ เปิดตลาดเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์

ไมโครซอฟท์มามาดใหม่ เปิดตัวเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้เก็บข้อมูลสุขภาพทั้งหมดไว้บนโลกออนไลน์ หวังตั้งตัวเป็นศูนย์กลางข้อมูลสุขภาพออนไลน์ครบวงจรสำหรับโรงพยาบาล ผู้ให้บริการธุรกิจประกันชีวิต และผู้บริโภค แม้จะถูกมองว่าเป็นบริการที่เข้าท่า แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์ว่าแล้วผู้บริโภคหรือสถานพยาบาลจะวางใจฝากข้อมูลส่วน ตัวแสนสำคัญไว้ในมือไมโครซอฟท์หรือไม่

บริการนี้ของไมโครซอฟท์ใช้ชื่อว่า HealthVault เหตุผลที่บริการนี้ถูกมองว่าเป็นบริการสร้างสรรค์คือ ปัจจุบันผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตัวเองผ่านโลกออนไลน์ได้ โดยหลังจากกรอกข้อมูลสุขภาพลงในเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์เพียงครั้งเดียว ผู้ใช้ก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับสุขภาพนานา ชนิดได้ ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลและบริษัทประกันชีวิตก็จะสามารถแบ่งปันข้อมูลประวัติการรักษาหรือค ้นหาข้อมูลด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลได้โดยสะดวก บนระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยม

โรงพยาบาลต้องร่วมมือ

ไมโครซอฟท์ยืนยันว่า ระบบสืบค้น HealthVault Search นั้นเป็นระบบสืบค้นความปลอดภัยพิเศษซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท Medstory จุดนี้ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความท้าทายของไมโครซอฟท์ไม่ได้อยู่ที่ความปลอดภัย ของระบบ แต่อยู่ที่ความร่วมมือจากสถานพยาบาลและบริษัทประกันภัย ว่าจะสมัครใจร่วมมือนำเสนอข้อมูลแก้ผู้บริโภคหรือไม่ จุดนี้ไมโครซอฟท์เผยว่า ยังไม่มีการประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการรายใดในขณะนี้

“เรื่องนี้ยังต้องมีการพัฒนาอีกยาวไกล” ปีเตอร์ นูเพิร์ท อดีตผู้สร้างเว็บไซต์ด้านสุขภาพนาม Drugstore.com ซึ่งรับบทเป็นแม่ทัพแผนกงานด้านสุขภาพของไมโครซอฟท์ในขณะนี้กล่าว “เราคิดว่านี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องมีการผลักดัน”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจรับฝากข้อมูล ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน ไมโครซอฟท์เคยเปิดตัวบริการนามว่า Hailstorm เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านโลกออนไลน์ เพียงไม่นานบริการนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆเพราะความกังวลเรื่องความปลอดภัยและปั ญหาสิทธิส่วนบุคคลในผู้บริโภค รวมถึงการขาดความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรในการร่วมผลักดัน

ความเป็นห่วงว่าไมโครซอฟท์อาจพาบริการ HealthVault ซ้ำรอยเดิมจึงเกิดขึ้นแม้นูเพิร์ทจะอธิบายว่า ไมโครซอฟท์เปิดช่องให้ผู้บริโภคสามารถจัดการได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลใดแก่ใคร โดยหลายฝ่ายมองว่าการเปิดให้บริการฟรีแก่ทั้งผู้บริโภคและผู้ให้บริการนั้นเ ป็นการเปิดเสรีจนเกินไป

ในด้านรายได้ นูเพิร์ทไม่ระบุตัวเลขรายได้จากการโฆษณาที่ตั้งเป้าไว้กับบริการนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้นธุรกิจโฆษณาตามคำสืบค้นซึ่งกูเกิลบุกเบิกหนทางมาก่อน พร้อมระบุว่าไม่ได้ตั้งเป้าว่าบริการนี้จะเป็นที่นิยมในเวลาอันสั้น

“ผมไม่ได้หวังว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นล้านคนในหกเดือน”

http://www.healthvault.com/ 

ที่มา : Manager Online

Share

ภรรยา 4 คน ข้อคิดดี ๆ ที่ควรจะอ่าน

ข้อคิดดี ๆ ที่ควรจะอ่าน – เปรียบเทียบได้ดีมากจริงๆ

ชายคนหนึ่งมีภรรยา อยู่ 4 คน

ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดอยากได้อะไร เขาหาให้ทุกอย่าง

ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ

ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้งคราว

ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ

ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิด ร้ายแรง

และถูกจับ ต้องถูก ประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้อง ว่า เขาขอกลับบ้านเพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง ผู้คุมเห็นใจจึง อนุญาต เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 เล่า เหตุการณ์ต่างๆ ให้ ฟัง และถามภรรยา คน ที่ 1 ว่า

” ถ้าเขาต้องตายภรรยาคนที่ 1 จะ ทำอย่าง ไร? ”

ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำ เสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่า เปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่งนึกเสียดาย
ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย

จากนั้นเขาก็ ไปหา ภรรยา คนที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถามคำถามเดิมกับภรรยาคนที่ 2
ว่า

“ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2 จะทำอย่างไร? ”

ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่า ” ถ้าเธอตาย ฉันจะมี ใหม่ ” เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขา
อย่างจัง เขารู้สึกเสียใจ มาก และนึกเสียดายว่าที่ผ่านมาเขาไม่ควร ทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน

เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคน ที่ 3 เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถาม ภรรยา คนที่ 3 ว่า

“ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 3 จะทำ อย่างไร? ”

ภรรยา คน ที่ 3 ตอบว่า “ถ้าเธอตาย ฉันจะไป ส่ง ” ทำให้เขา คลายความ เศร้าโศกขึ้นมาได้ บ้าง อย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขา

ก่อนกลับไป รับ โทษเขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคนซึ่ง ไม่ เคยไปหาเลย จึงไป หา ภรรยาคนที่ 4 และถามว่า
” ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่าง ไร?”

ภรรยาคน ที่ 4 ตอบ ว่า ” ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย ” แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะ…มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขา มี ชีวิตอยู่เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้ แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ ด้วย แล้วชายคน นี้ก็กลับไปรับโทษประหารและเมื่อเขาตายภรรยาคน ที่ 4 ก็ตายตามไป ด้วย…..

เราทุกคนก็ มีภรรยา 4 คน นี้

มีคำถามว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร ? คิดกันก่อน นะ แล้วค่อยเฉลย…………………………………….

ทีนี้เรามาดูกัน ว่า ภรรยาคน ที่ 1, 2, 3 และ 4 เป็นใครกันบ้าง

ภรรยาคน ที่ 1

ร่างกาย ของ เรา เพราะเวลาเรา มีชีวิตอยู่ เราจะบำรุงบำเรอด้วยของสิ่ง ทุกอย่าง อยากได้ อ ะไรก็หาให้ แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตายร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น

ภรรยาคน ที่ 2

ทรัพย์ สมบัติ
เพราะเวลา เรามีชีวิตอยู่ เราจะทำทุกอย่างเพื่อ ให้ได้มันมา แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา แต่ไปเป็นของคนอื่น

ภรรยาคนที่ 3

พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่ น้อง เพราะพอเราตาย เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้แปลว่า เขา แค่ไปส่งเราเท่านั้น

ภรรยาคน ที่ 4

บุญกับบาปเมื่อเราตายไป เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วย ได้ มีเพียงแค่ บุญกับบาปเท่านั้นที่จะตามเรา ไป …..

หลังจากอ่านจบแล้วได้แง่คิดอะไรกันบ้าง ? ….. จะให้ความสำคัญกับภรรยาคนไหนมากกว่ากัน?

หากคุณถูกพันธนาการด้วยรัก คุณจะเป็นนักโทษที่มีความสุขมากที่สุด

Share

ขายหัวเราะ

เป็นบทความข่าวสดๆ ร้อนๆ จาก Manager Metro Life ที่อ่านแล้วจะทำให้เรารู้ถึงที่มาและวิธีการผ่อนคลายความเครียดได้ดีเลยหละครับ ลองอ่านดูนะครับ

——————————————————-

ว่ากันว่า เสียงหัวเราะคือยาวิเศษที่สุดของโลกในยุคที่รายล้อมด้วยความเครียด

เชื่อหรือไม่ว่า เสียงหัวเราะ จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น ผลิตเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง และส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ การไหลเวียนของโลหิต และระบบต่อมไร้ท่อ กระตุ้นการทำงานของหัวใจ การหัวเราะที่ต่อเนื่องนาน 15-20 นาที เท่ากับได้ออกกำลังหัวใจถึง 5 นาที อีกทั้งยังช่วยในการบริหารปอด กำบังลมเคลื่อนให้ไหวดีขึ้น

ในหลายประเทศอย่าง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ การหัวเราะบำบัดกำลังเข้ามามีบทบาทในการบำบัดคนไข้เพื่อทดแทนการใช้ยา เพราะอารมณ์ขันให้ให้ผลเช่นเดียวกับการออกกำลังกายเช่นกัน

Metro Life ชักชวน มาร่วมกับ “หัวเราะ” กับหลากเรื่องราวของ “ตลก” เพื่อให้เกิดเสียงหัวเราะกับอารมณ์ขัน…

หัวเราะยับยั้งมะเร็ง ได้ !?

นักวิจัยนอร์เวย์พบในการศึกษาว่า เสียงหัวเราะบันดาลให้อายุยืน นักวิจัยจากโรงเรียน แพทย์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์เวย์ ได้ตามติดชาวนอร์เวย์ประมาณ 54,000 คน อย่างต่อเนื่องอยู่นานถึง 7 ปี ปรากฏว่า คนที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่มีอารมณ์ขัน จะอายุยืนกว่าคนที่มองไม่เห็นความขบขันในชีวิตเลย และในหมู่คนไข้ โรคมะเร็งก็เช่นกัน คนไข้รายที่รวยอารมณ์ขัน จะสามารถอยู่ได้ยืนยาวกว่าเพื่อนคนไข้ด้วยกันที่ไม่มีอารมณ์ขันถึง 7 ปี (ก็มี) อีกทั้งยังพบว่า คนที่ตรวจพบโรคมะเร็งในระยะต้น อารมณ์ขันสามารถลดโอกาสการเสียชีวิตลงได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับวัยผู้ใหญ่เต็มตัวที่ขาดอารมณ์ขัน

ทายนิสัยจากเสียงหัวเราะ

หัวเราะเสียงดังลั่น
คนที่หัวเราะเสียงดังลั่น ชนิดที่เรียกว่าได้ยินไปสิบบ้านแปดบ้านนั้น ผลจากการวิจัยบอกว่าเป็นคนที่จริงใจ มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว จะเรียกว่ากล้าได้กล้าเสียก็ไม่ผิดนัก เมื่อมีเรื่องคอขาดบาดตายมาให้ตัดสินใจก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง และเป็นคนที่กระตือรือร้นสูง มักมีงานนั่นงานนี่มาให้ทำอยู่เสมอ เสียแต่ว่าไม่มีความรอบคอบเท่าที่ควร

หัวเราะเสียงเบา
สำหรับคนที่หัวเราะเสียงเบา ๆ นุ่ม ๆ ทั้งหลาย บอกถึงนิสัยที่เป็นคนที่มีความระมัดระวังตัวเองสูง ค่อนข้างมีความคิดซับซ้อนอยู่ในใจลึก ๆ และมีความต้องการที่จะให้คนรอบข้างสนใจและรู้สึกนิยมชอบพอในตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วนอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นบุคคลที่เชื่อถือได้และน้ำใจดี พึ่งพาได้ในยามที่ต้องการความช่วยเหลือ

หัวเราะเสียงสูง
คนที่มีเสียงหัวเราะสูง ๆ นั้น บ่งบอกว่าเป็นคนมีจิตใจกระตือรือร้นอยู่เสมอ เรียกว่ามีไฟอยู่ตลอดเวลา สนใจเรียนรู้เรื่องแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทุกประการ โดยเฉพาะเมื่อได้รวมกลุ่มกับคนหนุ่มคนสาว จะมีพลังในการสร้างสรรค์สูง มักทำในเรื่องสร้างความประหลาดใจต่อผู้อื่นอยู่เสมอ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนจิตใจดี ไว้เนื้อเชื่อใจคนทุกคน และยังเป็นคนที่มีคุณธรรมในจิตใจสูงส่งอีกด้วย จะไม่ยอมทำในเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมโดยเด็ดขาด

หัวเราะเสียงหนักแน่นสม่ำเสมอ
มักเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ คาดหวังเพียงสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจสูงเพื่อผลของงานที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่มีจินตนาการแปลก ๆ ใหม่ ๆ เสมอ ซึ่งสร้างความสนใจให้แก่คนอื่นได้มากทีเดียว ทั้งยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน ที่ช่วยผ่อนคลายความเป็นคนเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง ไม่ให้กลายเป็นคนซีเรียส จนใคร ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ให้ดูน่ารักขึ้นอีกมาก

หัวเราะเสียงต่ำ
ผู้ที่เสียงหัวเราะเป็นเสียงในโทนต่ำนั้น อุปนิสัยค่อนข้างเป็นคนเจ้าชู้เอาเรื่องทีเดียว ทั้งยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความรักมากอีกด้วย ชีวิตมักวนเวียนอยู่กับเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่พูดจาหว่านล้อมคนได้เก่ง เข้ากับผู้คนได้ง่าย มีแนวคิดที่ลึกซึ้งน่าเลื่อมใสศรัทธา และมักเผยแพร่อิทธิพลความคิดของตนได้เสมอ ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้คนมารุมล้อมอยู่บ่อย ๆ ด้วยความนิยมรักใคร่

หัวเราะเสียงแห้ง
สำหรับคนที่เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ไม่มีชีวิตชีวานั้น บ่งบอกถึงนิสัยการเป็นคนชอบต่อสู้และมีชีวิตอยู่ในโลกของความจริง ไม่มีอารมณ์เพ้อฝันในจิตใจเอาเสียเลย แต่ว่าในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่ละเอียดลึกซึ้งทีเดียว มองคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ใครที่คิดจะมาหลอกลวงอะไรไม่มีทางได้ผล แต่ว่าเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือ และเรียกร้องสิทธิเพื่อคนที่ตกทุกข์ได้ยาก มักมีชีวิตง่าย ๆ สมถะ คบหาคนด้วยเรื่องของจิตใจ มากกว่าฐานะ หรือชื่อเสียงของคน ๆ นั้น

หัวเราะแล้วน้ำตาไหล
ส่วนคนที่เวลาหัวเราะแล้วจะมีน้ำตาไหลนั้น บ่งบอกถึงนิสัยของการเป็นคนที่มีอุดมคติหรืออุดมการณ์นั่นเองมักมีจิตใจที่ช อบช่วยเหลือคนอื่นอย่างมาก เป็นคนเปิดเผย ร่าเริง ชื่นชมชีวิต รักทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่ว่าจะดีหรือเลว เรียกว่าเป็นที่ศรัทธาต่อการดำรงชีวิตที่ไม่ผิดเลยทีเดียว แต่ว่าถ้าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนสูง ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่มีโลกส่วนตัว และยังหวงแหนโลกส่วนตัวของตนเอามาก ๆ

หัวเราะหลายเสียง
ข้อนี้หมายถึงคนที่มีเสียงหัวเราะหลายแบบอยู่ในตัวเอง คือ สามารถหัวเราะเป็นเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ได้อย่างน่าแปลกใจ ซึ่งบ่งบอกถึงการเป็นคนที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได ้ดี เอาใจคนรอบข้างเก่งอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นบุคลิกที่สามารถเข้ากับใครได้ง่าย ๆ ไม่ถือตัว หรือมีฟอร์มใด ๆ ทั้งสิ้น จะทำงานในหน้าที่บริหารหรือจัดการประสานงานได้ดี

ข้อมูลจาก http://rahu.moohin.com/hihi.shtml

************

เดอะดวง การ์ตูนตลกร้าย

“ผมชอบการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กๆ และก็เริ่มขีดเขียนตั้งแต่ 3 ขวบ จนวันนี้ ก็ 7 ปีแล้วครับที่อยู่ในวงการการ์ตูน และวาดการ์ตูนเป็นอาชีพ” เดอะดวง นักวาดการ์ตูนเลือดใหม่ “แนวตลกร้าย” ที่น่าจับตาคนหนึ่งกล่าวกับ Metro Life

เดอะดวง หรือ วีระชัย ดวงเพลา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกการออกแบบนิเทศศิลป์ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา บอกว่า การ์ตูนเรื่องแรกเล่มแรกของเขา วาดให้เพื่อนๆ เมื่อตอน ม.1 ครับ มีประมาณ 30 หน้า และเสียงสะท้อนกลับในหมู่เพื่อนค่อนข้างดี และเห็นแววที่ฉายชัด ตั้งแต่นั้น

หลังจากวันนั้น พัฒนาการวาดการ์ตูนมาเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกว่าน่าจะลองเอางานไปเสนอสำนักพิมพ์ดู ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จไปเป็นนักเขียนประจำที่ “ตลาดตลก”

“ผมวาดประจำที่ตลาดตลก 1 ปี พ่อ (นักวาดการ์ตูนเหมือนกัน) แนะนำว่าให้ลองส่งงานเข้าร่วมการประกวดที่ “สยามอินเตอร์คอมมิก” ที่สุดเรื่องสั้นชื่อ Shockolate แนวตลกร้ายก็ได้ตีพิมพ์งานแผง และไม่นานเขาก็ได้ไปวาดประจำอยู่ที่นั่น

สำหรับเรื่องเนื้อหาแนวตลกร้ายเล่มแรกของเขา เดอะดวงบอกทริกตั้งแต่การตั้งชื่อว่าเป็นการล่อหลอกคนอ่าน

“หลายคนนึกว่าชื่อแบบนี้ต้องหวาน (หัวเราะ) แต่ข้างในจะเป็นเรื่องตลกร้าย เป็นเรื่องสั้นกว่า 10 เรื่อง แต่ธีมจะเป็นช็อกโกแลต ซึ่งจะเป็นมุมมองหลายๆ สไตล์ เป็นตลกร้ายคนละแบบ” เขาเล่ายิ้มพร้อมกับยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง ชื่อ “เตียง” เป็นตลกร้ายผสมหลอนๆ ที่เอามาจากชีวิตจริง

“ผมเป็นคนกลัวใต้เตียงเพราะมันมืดมาก ทำให้เราคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่า เลยเอามาเขียนเป็นการ์ตูน เดินเรื่องด้วยเด็กขี้กลัวใต้เตียง อีกทั้งยังโดนเพื่อนคอยบิลด์ว่าที่โรงพยาบาลนี่มีผี และตัวเองปวดฉี่จึงกัดฟันลุกออกไปเข้าห้องน้ำ พอกลับเขาจึงลงไปนอนใต้เตียงเพื่อเป็นการขจัดความกลัว แต่ปรากฏว่าใต้เตียงกลับไม่มีอะไร แต่สรุปแล้วบนเตียงมีผีอยู่ คือเขาไปนอนทับที่ผี”

สำหรับการคิดพล็อต เดอะดวงเผยว่า คิดจากเรื่องธรรมดาๆ ของคนทั่วๆไป หรือเป็นเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจโดยตรง

“ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากการอ่าน อินเทอร์เน็ต และการได้คุย มันทำให้ผมต้องคิดตลอดเวลา จะหยุดคิดได้ก็แต่ในเวลานอนเท่านั้น เพราะเนื้อเรื่องต้องไม่ซ้ำกัน”

แนวทางตลกร้ายของเขาได้รับอิทธิพลมาจากงานของทิมเบอร์ตัน ผู้กำกับหนังชื่อดังเช่น ไนท์แมน, ชาร์ลี แอนเดอะช็อกโกแลต แฟก เตอรี และบิ๊กฟิช ส่วนคาแร็กเตอร์ของตัวการ์ตูนตลกร้ายของเขาจะอยู่ที่ตา จะซ้ำๆเหมือนมันอดนอน

“ผมชอบแนวคิดและคาแร็กเตอร์ตัวละครของเขามาก คอนเซ็ปต์ของทิมรู้สึกว่าจะเป็นความสวยงามในความอัปลักษณ์ ผมก็นำตัวละครและเนื้อเรื่องมาประยุกต์ เป็นอะไรที่เข้าท่าจึงหยิบมาใช้ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่สอนเด็กไปด้วยในตัว”

“อย่างอ่านหัวเราะๆ อยู่ แต่จบอย่างสยองขวัญ ผมชอบที่มันดึงให้คนคิดอยู่ตลอดเวลา ถามว่าค่าตอบแทนดีไหม สำหรับผมก็ถือว่าดี แต่ไม่ดีมาก เรียกว่าพออยู่ได้ แต่ถ้าจะให้เป็นอาชีพหลัก เลี้ยงตัวได้ไหม มันตอบยาก แต่ถ้าถามว่าจะวาดการ์ตูนอีกนานไหมตอบได้เลยว่านาน ผมอยากทำให้มันเป็นอาชีพ และก็กำลังจะพัฒนาให้เป็นแอนิเมชันให้ได้ กำลังศึกษาอยู่ครับ” เดอะควงกล่าว

ผลงานเดอะดวง

หนังสือตลกร้ายชื่อ“ห้องเล็กๆ ของเครื่องเขียน” ของมูลนิธิเด็ก
หนังสือตลกร้ายชื่อ “เด็กชายตุ๊กตา” ของมูลนิธิเด็ก เล่มที่ 2
หนังสือ “เลสแก๊ง” ของค่ายสตาร์พิก รวมนักเขียนเฉพาะกิจแนวตลกร้าย ออกเป็นรายเดือน (หนังสือที่ยังไม่วางแผง )
“เกี่ยวกับบาป 7 ประการ” สำนักพิมพ์อะบุ๊ก

***********

บันลือสาส์น
อนาคต วอลท์ ดิสนีย์เมืองไทย

เสียงหัวเราะรุ่นพ่อเมื่อวันวานคือ หนูจ๋า , เบบี้ เป็นหนังสือการ์ตูนไทยแท้เก่าแก่ที่สุด วันนี้ รุ่นลูก เสียงหัวเราะผ่านมากับหนังสือขายหัวเราะและการ์ตูนมหาสนุก ทั้งหมดคือ ธุรกิจในเครือบรรลือสาส์น

วิธิต อุตสาหจิต วัย 52 ปี ลูกชายคนโตของ บันลือ เป็นหัวเรือใหญ่ธุรกิจในเครือบรรลือสาส์น คือผู้ก่อตั้งหนังสือขาย “หัวเราะ”จนโด่งดัง บนโลกจินตนาการเขามีเป้าหมาย และอยากเป็น “วอลท์ ดิสนีย์เมืองไทย”

วิธิตจบการศึกษาด้านการถ่ายทำภาพยนตร์มาจากประเทศอังกฤษ เคยร่วมงานในคณะถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดเรื่อง “เดียร์ฮันเตอร์” และเคยเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเรื่องดัง “ผีหัวขาด” (ประมาณปี 2521-2512)ของบริษัทศรีสยามภาพยนตร์ เมื่อ “ขายหัวเราะ” ประสบความสำเร็จเพียง 2 ปี วิธิตก็ปั้น“มหาสนุก” จับลูกค้าระดับกลุ่มครอบครัวมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง จนมีผู้ตั้งฉายาให้เขาว่า “ราชาแห่งการ์ตูนไทย”

ขายหัวเราะเล่มแรก เป็นไซส์ A4 (ราคา 5บาท) หลังจากนั้น 8 ปี ไซส์หนังสือจึงหดเท่าขนาดปัจจุบันที่เราเห็นๆ พร้อมกับอัปราคาขึ้นเป็น 12 และ 15 บาท ตามลำดับ

“ตอนนี้มีผมกับคุณต่ายที่เด่นเรื่องแก๊ก, คุณนิค เด่นเรื่องลายเส้นและการหักมุม, คุณหมูถนัดเรื่องสั้นและตลกแนวเสียดสี ส่วนคุณเอ๊าะ เน้นแนววัยรุ่นและภูมิปัญญาแนวอีสาน คุณแฟนสนุกกับการล้อเลียน และคุณขวดมีความสามารถด้านดีไซน์” วิธิต บอกเล่ากับ Metro Life ถึงทีมงานที่ร่วมคลุกคลีตีโมงสร้างความสุขให้แก่ผู้อ่านทางบ้าน

นอกจากนี้ เขายังมุ่งมั่นที่จะสร้างความสุขและเสียงหัวเราะของการ์ตูนไทยโกอินเตอร์ด้ว ยการเปิด บริษัท บรรลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด ทำหน้าที่สร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ออกสู่ตลาดสากล ทั้งยังจัดตั้งหน่วยงานขึ้นอีกหลายหน่วยเพื่อดูแลเนื้อหาเฉพาะทาง อันได้แก่

– นิว มีเดีย ผลิตผลงานหนังสือที่มีเนื้อหาสนุกสนาน รักโรแมนติกใส ๆ เหมาะสมกับวัยรุ่น

– นาว มีเดีย ผลิตผลงานที่เนื้อหาความตลกสนุกสนาน ให้เสียงหัวเราะและความบันเทิง

– น็อบ มีเดีย ผลิตผลงานที่มีเนื้อหาน่ารู้ทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องราวลึกลับและแนตตี้ มีเดีย ดูแลการผลิตหนังสือสำหรับเด็กโดยเฉพาะ

“ในยุคสมัยแห่งดิจิตอลเราไม่ได้ผลิตแค่หนังสือ แต่ยังได้ขยายอาณาจักรมหาสนุกออกไปสู่วงการแอนิเมชันด้วยการก่อตั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น สร้างสรรค์คาแร็กเตอร์จากหนังสือการ์ตูนให้โลดแล่นในโลกไซเบอร์ และ บริษัท มาโชบิส ซึ่งเป็นผู้ดูแลธุรกิจลิขสิทธิ์ และทำการตลาดทั้งหมด ซึ่งนับเป็นการเสริมกำลัง ให้กลุ่มบริษัท บรรลือกรุ๊ป ให้แข็งแรงในทุกด้าน” วิธิต อุตสาหจิต กล่าว

วินาทีจากนี้ไป เพื่อสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้นและเป็นจริงดังคำกล่าวที่เขาอยากเป็น “วอลท์ ดิสนีย์เมืองไทย”

**************

พิฆาตโรค ฆ่าความเครียด
กับหัวเราะบำบัด

แม้จะรู้ว่า เสียงหัวเราะมีประโยชน์ แต่พอเอาเข้าจริง น้อยคนที่จะรู้ว่า ควรหัวเราะอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะเมื่อไหร่ที่คุณปล่งเสียงหัวเราะอย่างถูกหลัก มันจะมีประโยชน์อนันต์มหาศาล

แต่หลายคนก็สงสัยว่ากับแค่การหัวเราะมันจะอะไรกันนักกันหนา
อ.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา และอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ผู้ก่อตั้งชมรมหัวเราะบำบัด มีคำตอบ

“จริงๆ แล้วหัวเราะบำบัดต่างจากหัวเราะธรรมชาติมาก หัวเราะธรรมชาติมีผลข้างเคียงเยอะ เช่น หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง หัวเราะจนกามค้าง เป็นทฤษฎีผิดๆ เหมือนการหายใจ หรือการปิดปากหาว แต่การหัวเราะบำบัด มีสติเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นขั้นตอนจะช่วยบำบัดโรคได้”

โครงการชมรมหัวเราะบำบัดเกิดขึ้นแบบไม่เป็นทางการ เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน แต่เป็นรูปร่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

“ตอนนั้นมีนิสิตฆ่าตัวตายทุกวัน เราก็มาคิดว่าจะช่วยอย่างไร ก็เลยมาช่วยเรื่องการจัดหัวเราะที่สนามหลวง ตอนนั้น มศว. ออกสื่อเยอะ เหลือเชื่อเลย ปรากฏว่าตัวเลขลดลงมาก ผมว่าเสียงหัวเราะมันแปลก ทำให้คนที่ซึมเศร้าได้มีชีวิตใหม่” อ.วัลลภเรียกวิธีการหัวเราะแบบนี้ว่า “เสียงบำบัด”

“จากการศึกษา เสียงที่ดีที่สุด ก็คือเสียงฮัมเสียง-ร้องเพลง แต่ 2 อย่างนี้ก็ต้องใช้ความคิด ต้องใช้ความจำเสียงเพลง ซึ่งเสียงที่ดีกว่านั้น ก็คือเสียงบำบัดด้วยการเปล่งเสียง อา อี้ อู เพื่อปลดปล่อย ซึ่งผมก็จับเอา 2 สิ่งนี้มาผนวกเข้ากับเสียงหัวเราะซึ่งเป็นที่ดีที่สุดของชีวิตคนเรา”

หลังจากโครงการนี้ออกไปสู่ทุกสาธารณชนได้ไม่นาน ทุกๆ วันพฤหัสบดี ที่ มศว. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มีคนหลั่งไหลเข้า มาใช้บริการมากอย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

คนที่นอนไม่หลับ เครียด หรือคนที่มีอาการของโรคอื่นๆเช่น กล้ามเนื้อชา กระดูกเสื่อม คนกลิ่นตัวแรง สิวเยอะ หรือแม้แต่มะเร็ง ดีขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ คนกรุงเทพฯอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงที่สุด เริ่มจาก นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ และกลุ่มคนที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ สมอง กระดูกกล้ามเนื้อเสื่อม โรคชาตามเนื้อตัวก็มีจำนวนมาก ทั้งยังมีโรคเสื่อมสมรรภาพทางเพศอีกด้วย

“กลุ่มผู้หญิงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากช่องคลอดมากขึ้น เพราะไม่ค่อยเขย่าความเครียด แถมมีกางเกงในปิดอับ แบคทีเรียก็มาก ป้องกันโรคเหล่านี้ได้แค่หัวเราะอย่างถูกวิธี จะทำให้เซลล์ทุกเซลล์ขยับขับเคลื่อนมันเหมือนการออกกำลังกายแบบไม่เสียเงิน”

ชมรมหัวเราะบำบัดนี้ บริการฟรี ตั้งแต่ 14.00 น. ทุกวันพฤหัสบดี !!

แนะนำว่า ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ควรใส่กระโปรง เพราะต้องกระโดดโลดเต้น

“จริงๆ แล้วผมอยากบอกว่าความเครียดเป็นปลายเหตุ คิดร้าย คิดมาก ทำมาก ทำน้อย ก็เครียด พอเครียดก็เป็นโรคไง ทุกวันนี้เรารักษาที่ปลายเหตุ ก็อยากให้ลองมารักษาที่ต้นเหตุ ลองมาหัวเราะแบบถูกวิธีกัน”

มาร่วมหัวเราะเพาะอารมณ์ดี, มาร่วมหัวเราะเพาะความคิดสร้างสรรค์, มาร่วมหัวเราะเพาะความสัมพันธ์, มาร่วมหัวเราะเพาะรักสามัคคี

ชมรมหัวเราะบำบัดจะจัดงานเทิดพระเกียรติให้กับพ่อหลวง ในชื่อ “หัวเราะเพาะสมานฉันท์” โดยตัวแทนคนใน 64 จังหวัดมาทำการแข่งหัวเราะในวันที่ 28 พ.ย. 50 นี้ ที่ มศว ประสานมิตร

ในอนาคต หมอวัลลภ ปิยะมโนธรรม เตรียมจัดคอร์ส “สอนหัวเราะ 7 อย่าง และระหว่างนี้กำลังจะจัดทัวร์หัวเราะบำบัดไปตามสถานที่ต่างๆทั้ง ภาคเหนือ ใต้ ออก ตก

“ ผมอยากให้สยามเป็นเมืองแห่งเสียงหัวเราะมากกว่ารอยยิ้มครับ” หมอวัลลภกล่าวปิดท้ายกับ Metro Life

สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2204-1000, 02-649-5000 ต่อ 5438

วิธีหัวเราะบำบัด แบ่งเป็น 3 ช่วง

ช่วงแรกจะเป็นการวอร์มเครื่อง คือ วิทยากรก็จะให้ผู้เข้าร่วมขยับให้ร่างกายและเส้นประสาทเพื่อขยายทุกๆ ส่วนของร่างกาย เมื่อหัวเราะสารแห่งความสุขเช่นเอนโดรฟีล เซลาโทนิน อะดรินาลีน จะอยู่ที่สมองแล้ววิ่งไปทั่วร่างกาย ทำให้แจ่มใส หายเครียด

ขั้นตอนที่ 1. คือหัวเราะแบบพื้นฐานประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นจะมีหาว – โวยวาย – ร้องไห้บำบัด

ขั้นตอนที่ 2 ค ือขั้นการปรับทุกข์ ปรึกษาบำบัด แยกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อเล่าเรืท่องเครียดในคนในกลุ่มฟัง คนที่นั่งดูก็ต้องหัวเราะเพื่อปลดปล่อย (หัวเราะ) อย่างครื้นเครง เพื่อจะแก้ปัญหาเรื่องจิตสำนึกให้เป็นคนมองโลกในแง่ดี

ขั้นตอนที่ 3 มาหัวเราะสุดชีวิต มือกาง กระโดดอย่างหลุดโลก ปลดปล่อยให้เอนโดรฟีลหลั่งออกมา จนหมดเกลี้ยงและกลับไปอย่างมีความสุข

************

โอ – อา – อู – เอ
หัวเราะบำบัดโรค แบบง่ายๆ

แนวคิดของการหัวเราะบำบัด อิงตามหลักของศาสตร์ตะวันออกที่มองทุกอย่างเป็นองค์รวม โดยเน้นฝึกด้วยท่าหัวเราะ หลายๆท่าต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง เพราะในแต่ละท่าจะมีประโยชน์ต่างกัน โดยใช้เสียง โอ อา อู เอ นำมาประยุกต์ในกระบวนการหัวเราะบำบัด ซึ่งเป็นเสียงพื้นฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก

สอนวิธีหัวเราะ

โ อ เสียงซานตาคลอส
ท้องหัวเราะ ยืนตัวตรง กางขาเล็กน้อย กางแขนออกไปด้านข้างของลำตัว งอแขนเล็กน้อย กำมือทั้งสองข้างโดยชูนิ้วหัวแม่มือขึ้น ตามองตรง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ กักลมไว้ แล้วค่อยๆ เปล่งเสียง “โอ โอะ” ขณะเดียวกันให้ค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออก และขยับแขนขึ้นลง

ประโยชน์ ทั้งลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ตับ ไต และกระเพาะอาหารจะขยับขับเคลื่อน ท่านี้ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดี บำบัดโรคลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะอาหาร ท้องผูก ท้องเสีย รวมถึงคนที่มีปัญหาโรคอ้วน เป็นต้น

อา เสียงตัวโกงละครไทย
อกหัวเราะ ยืนตรงกางขาเล็กน้อย กางแขนออกไปข้างลำตัวเหมือนนกกระพือปีก หงายมือขึ้น และปล่อยมือตามสบาย ตามองตรง สูดลมหายใจลึกๆ กักลมไว้ ค่อยๆเปล่งเสียง “อา อะ” ดังๆ และปล่อยลมหายใจออก พร้อมๆ กับกระพือแขนขึ้นลง

ประโยชน์ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หัวใจ ปอดและไหล่ขยับเขยื้อนไปด้วย ท่านี้จะช่วยให้อวัยวะบริเวณหน้าอกทั้งหมดทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบำบัดโรคความดัน โรคหัวใจ โรคปอด อาการเจ็บแน่นหน้าอก เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคขาดเลือด ที่สำคัญมันเพิ่มการสูบฉีดและการไหลเวียนเลือด

อู เสียงหมาหอน
คอหัวเราะ เริ่มด้วยยืนตรง กางขาเล็กน้อย แขนแนบลำตัว ยกตั้งฉากชี้ไปข้างหน้า งอนิ้วนางและนิ้วก้อยเข้าหาตัวเอง ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น ชี้นิ้วชี้และนิ้วกลางไปข้างหน้าเหมือนท่ายิงปืน ตามองตรง จากนั้นสูดลมหายใจลึกๆ กักลมไว้ และเปล่งเสียง “อู อุ ” และค่อยปล่อยลมหายใจออก พร้อมกับแทงมือไปข้างหน้า

ประโยชน์ ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหาเจ็บคอ คออักเสบ ปวดคอ คนที่มีปัญหาเนื่องจากต้องใช้เสียงเยอะๆ เช่น ครู นักร้องท่านี้จะช่วยให้คอโล่ง ช่วยรักษาโทนเสียง

เอ เสียงเล่นจ๊ะเอ๋กับเด็ก
ใบหน้าหัวเราะ ยืนตามสบายยกมือขึ้นสูดลมหายใจลึกๆ แล้วขยับทุกนิ้วทั้งหัวแม่มือ ชี้ กลาง นาง และก้อย ตามองตรง ระหว่างนั้นให้เปล่งเสียง “เอ เอะ” นอกจากได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วมือแล้วท่านี้ยังช่วยบริหารสมองด้วย
ประโยชน์ เมื่อเปล่งเสียงเอ ใบหน้าจะมีลักษณะเหมือนกำลังฉีกยิ้มโดยอัตโนมัติ เหมือนเรากำลังเล่นจ๊ะเอ๋กับเด็กตัวเล็กๆ เสียงเอจะทำให้เรายิ้มง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีท่าหัวเราะบำบัดอีกดังนี้

จมูกหัวเราะ ย่นจมูกขึ้นและทำเสียง “ฮึๆ” ในจมูกเหมือนม้า ท่านี้จะช่วยไล่สิ่งสกปรกในจมูกออกมา บำบัดภูมิแพ้ ไซนัส หวัด โดยเฉพาะปัญหาเรื่องระบบหายใจ

ตาหัวเราะ กะพริบตาถี่ๆ กรอกตาขึ้นลงเป็นวงกลม แล้วเปล่งเสียง “อ่อย ๆ ๆ…” เล่นหูเล่นตา มองซ้ายที ขวาที ทั้งนี้ใครที่มีปัญหาตาแห้งหรืออยู่หน้าจอคอมพ์ฯ ท่านี้จะทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงที่ตา ช่วยให้ตาชุ่มชื้นขึ้น

สมองหัวเราะ โดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเครียดมักจะปิดปาก ทำให้ความดัน ขึ้นสมอง ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหา โดยปิดปากแล้วเปล่งเสียง “อึ ๆ ๆ…” ให้เกิดการสั่นสะเทือน ขึ้นไปนวดสมอง

ไหล่หัวเราะ ยืนตรงแล้วส่ายไหล่ไปมา เหมือนการว่ายน้ำฟรีสไตล์ และเปล่งเสียง “เอ เอะ” ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับไหล่ ท่านี้ช่วยได้ โดยเฉพาะในบริเวณไขสันหลัง ก้นและสะโพก เป็นต้น

**************

ตลกคาเฟ่
ความห่าม ฮา เสน่ห์ไร้เซ็นเซอร์<./font>

บนเวที แสงสีเสียงตระการตา ตัวหลักในคณะตลกกำลังชงมุก “ล้อ” เอกลักษณ์ของนักร้องนำวงดัง อย่าง “แคลช, บอดี้สแลม, บิ๊กแอส” ทำไม้ทำมือเหมือนนักมวย ซึ่งจะว่าไปแล้วมุกล้อที่ว่าก็ไม่ได้แตกต่างกับที่เราเห็นๆ กันในรายการ TV สักเท่าไหร่ ผิดก็แค่บนเวทีนั้นจะมีทะลึ่งๆ หลุดกว่าเยอะ ทว่าความสด ห่ามตรงหน้ากลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คาเฟ่ยัง Cool ยังขายดีในสังคมที่คนมีแต่ความเครียด

“ขนาดเราเป็นเจ้าของคาเฟ่เองเห็นทุกวันนะ ยังแอบแวะมานั่งดู นั่งหัวเราะกับตลกคณะโปรดของเราอยู่บ่อยๆ” จรรยา สายพรชัย หรือฉายาที่ใครๆ เรียกเธอว่า “เจ้าแม่คาเฟ่แห่งกรุงธน คอมเพล็กซ์” ศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเล่าไปยิ้มไปด้วยความภูมิใจ

ซ้อจรรยา ก่อนที่จะปลุกปั้นธุรกิจคอมเพล็กซ์จนโด่งดัง เธอเคยบริหารคาเฟ่ที่บางแสนมาก่อนตั้งแต่ พ.ศ. 2523 จากนั้น 10 ปีจึงตัดสินใจทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเปิดกรุงธน คอมเพล็กซ์ศูนย์รวมแห่งความบันเทิง มีทั้ง คาเฟ่ ลีลาศ อาบ อบ นวด และคาราโอเกะ บนเนื้อที่ใหญ่กว่า 4 ไร่

“ที่ตัดสินใจเปิดกรุงธนฯ เพื่อจะชูจุดขายว่าเป็นที่รวบรวมตลกคณะเก่งๆ ดังๆ มาไว้ที่นี่ให้มากที่สุดในประเทศไทย เพื่อคืนกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งตอนนั้นคนในประเทศกำลังเครียดจากปัญหาบ้านเมือง และเศรษฐกิจ”

“ตอนนั้นเรารับหมด เมื่อ 20 ปีที่แล้วคณะตลกดังๆ ไล่ไปตั้งแต่คณะป๋าต๊อก จุ๋มจิ๋ม หนู เต่า ดู๋ ดอกกระโดน เด๋อ ดอกสะเดา โน้ต เชิญยิ้ม เป็ด เชิญยิ้ม โย่ง บอล เชิญยิ้ม ฯลฯ ตลกทุกคณะต้องผ่านกรุงธน คอมเพล็กซ์หมด ตลกคาเฟ่มันบูมมากๆ ในช่วงนั้น”

อย่างไรก็ดี แม้ซ้อจะบ่นว่าปัจจุบันนี้วิถีบริโภคของคนเที่ยวคาเฟ่จะเปลี่ยนไปบ้าง ส่วนหนึ่งเพราะพิษเศรษฐกิจ และอีกส่วนสำคัญก็คือ ตลกเล่นมุกซ้ำไม่ต่างไปจากตลกในทีวีที่ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด ซ้อจรรยาแก้ปัญหาด้วยการกระตุ้นให้คณะตลกหามุกใหม่ๆ สดๆ มาเล่นบนเวทีเพื่อหนีความจำเจของตลกทีวี ซ้อยึดนโยบายว่า ต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า รายละเอียดมีว่า

“เราขอความร่วมมือว่า อย่างธรรมดา พวกเขาจะเปลี่ยนมุกสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งหากสัปดาห์หนึ่งคุณก็ต้องเล่นถึง 2 รอบ ต้องคิดมุกเล่นไม่ให้ซ้ำกัน ที่สำคัญ เสน่ห์ความสดของตลกคาเฟ่ คือหัวหน้าตัวขายอย่าขาด ช่วยมาเป็นสีสัน เราจะไม่เอาเปรียบคนเที่ยว” นี่คือคำขอสำหรับตลกรุ่นเก๋า หากตลกรุ่นใหม่ซ้อบอกว่าก็จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะออกรายการทีวียังไม่เยอะเหมือนคณะตลกดังๆ ดังนั้นจึงมีเวลาฝึกฝนคิดมุกได้มาก

“อย่างพวกตลกใหม่ๆ อย่างนุ้ย-บอล เชิญยิ้ม หรือ ป็อป สกอร์เปี้ยน คนติด เขาเก่ง เล่นธรรมชาติดี มีการเอามุกการเมืองมาเสียดสีเล็กๆ บางทีเราฟังเขาแล้วเฮ้ย คิดได้ไงเนี่ย เดี๋ยวนี้ไม่มีใครบอกว่าตลกคาเฟ่ หยาบ ตลกรุ่นใหม่มีความรู้ ผู้ชมจะได้ทั้งเสียงหัวเราะแถมสาระ เหมือนเขาเอาข่าวมาย่อยให้ฟัง คนก็ชอบ”

ฐานะเจ้าแม่คาเฟ่ ที่สุดแล้วเธอยังเชื่อว่าต่อให้ตลกในจอตู้มีมากแค่ไหน ถ้าสังคมยังมีความเครียดหมักหมมอยู่ ศาสตร์คลายเครียดอยู่ที่ไหนก็ขายได้ทั้งนั้น

กรุงธน คอมเพล็กซ์
ที่ตั้ง ใกล้กับเดอะมอลล์ ท่าพระ
ความจุ 300 คน ที่จอดรถ 100 คัน
Open-Close 19.00 – 01.00 น. (ทุกวัน)
สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 0-2467-5700-2

************

บอล เชิญยิ้ม ตลกเคลื่อนที่

มุกคาเฟ่ มุกรับเล่นนอกสถานที่ มีความแตกต่างกันกับตลกทีวีนิดหน่อย นี่คือทัศนะของบอล เชิญยิ้มที่บอกกับเรา

“งานจ้างข้างนอก งานคาเฟ่ มันไม่ต้องเซฟเต็มที่ ใส่มุกได้เต็มตีน (หัวเราะ) แต่ทีวีต้องเซฟคำหยาบ เซฟหลายๆอย่าง ต้องเล่นให้ดูน่ารัก ซึ่งตรงนี้คือความแตกต่าง อย่างงานนอก และคาเฟ่สามารถเล่นได้เลย จะด่าพ่อล่อแม่ยังไงก็ได้ (หัวเราะ) หรือมีคำหลุดต่างๆ มากกว่าปกติ”

ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีในการเล่นตลกอาชีพ ผ่านคาเฟ่มาหลากหลายแห่ง แหล่งทำเงินสำหรับตลกมืออาชีพ

“มันเป็นอะไรที่ได้เงินมาก คนจบปริญญา บางทีเงินเดือนยังไม่ได้มากเท่ากับมาเล่นตลกคาเฟ่เลย คืนหนึ่งๆ วิ่งรอกเล่นหลายที่ คนหนึ่งๆ มีเงินไม่ต่ำกว่าสามพันบาทต่อวัน คณะผมมีสมาชิก 15 คน คืนหนึ่งมีรายได้หลายหมื่น” บอล เชิญยิ้ม กล่าว

ในแต่ละคืน มีคนเข้าไปหาความสำราญกับคาเฟ่มากโขอยู่ อยากรู้มั้ยว่า ทำไม … คนติดคาเฟ่

“บางทีแขกมาเที่ยว เจอเด็กเสิร์ฟ เจอกัปตัน เจอตลกนี้ ก็มีแต่คนไหว้ มีแต่คนคอยเอาใจ พูดจาดี อารมณ์กลางคืนกับชีวิตประจำวันต่างกัน ตอนเช้า คุณจะถูกใครด่ามา เครียดกับคนโน้น คนนี้ แต่พอเข้าคาเฟ่ปุ๊บ เขาจะดูมีอำนาจ เป็นเสี่ยขึ้นมาทันที นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้คนเสพติดคาเฟ่”

บอล เชิญยิ้มจะเปลี่ยนมุกอาทิตย์ละครั้ง อย่างกรุงธนฯ เนี่ยผมเข้าทุกวัน ต้องเปลี่ยนมุกไปเรื่อย เพื่อไม่ให้จำได้

“เพื่อความสนุก ความเป็นกันเอง พอแขกสนุก เราก็เล่นกับแขกได้แล้ว ซึ่งเทคนิคในการดูแขก ต้องดูที่แววตา ถ้าแหย่ไปแล้วไม่เล่นด้วย เราก็ถอยดีกว่า (หัวเราะ) เราก็เปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่น ผมว่าบรรยากาศคาเฟ่มันสนุกทุกๆ วัน เจอคนไม่ซ้ำกัน เจอผู้หญิง เด็ก และอะไรเต็มไปหมด” บอลเผยเทคนิค

คนที่อยากสัมผัสกับความฮาของคณะ บอล เชิญยิ้ม นอกเหนือจากหาชมได้จากคาเฟ่แล้ว ยังรับงานตลกนอกสถานที่ด้วย

“พวกผมเป็นตลกเคลื่อนที่ครับ”
สนใจติดต่อโชว์ได้ที่เบอร์นี้ โทร.08-9810-1911” บอลยิ้มปิดประโยคสนทนา

***************

พระมหาสมปอง
วานิลลาเคลือบธรรมะ

หลายสิบปีก่อนเรามี พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว เป็น“ป็อปปูลาร์” สุดยอดของพระนักเทศน์ นักทอล์ก นักพัฒนา ด้วยเอกลักษณ์การย่อยธรรมะให้เป็นเรื่องฟังง่ายและสนุก

มา พ.ศ. นี้ แรงเหวี่ยงของกระแสการเทศน์ Entertain ได้กลับมาฮอตอีกครั้ง โดยมี “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” แห่งวัดสร้อยทอง เป็นพระนักทอล์กสายเลือดใหม่ การันตีความฮิตด้วยกิจนิมนต์ เดือนละ 240 งาน เป็นธรรมะฉบับเฮฮา เหมือนเอา “วานิลลามาเคลือบแก่นธรรม” ให้มีรสหวาน รับประทานง่าย

ท่านเริ่มการผสมกันระหว่างการเทศน์กับวิธี Entertain เมื่อไหร่
“ตั้งแต่เป็นคอนวอยส์ (บวชเณร) ก็ว่าได้ แต่ถ้าถามว่าชื่นชอบมากๆ ตอนไหนก็น่าจะเป็นปีแรกที่ ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตอนนั้นไปขอเขาร่วมกิจกรรมไปนั่งฟังพระเทศน์ที่วัดแห่งหนึ่งชอบมาก จนเรียนปี 3 ความชื่นชอบก็ทะลุปรอท

ชอบขนาดที่ว่าต้องจดๆ มุกว่า ท่านเทศน์ยังไง ฮา-หยอด-ตบยังไง เราก็เอาหมด ซึ่งคำพวกนี้สำคัญถ้าผิดจังหวะมันไม่ฮา อย่างคำคม ถ้าไม่ถูกคำเดียวก็ไม่คม เช่น “บางสิ่งก็ไม่ควรจำ ถ้ามันทำให้ใจเจ็บ บางสิ่งมันก็ควรเจ็บ ถ้ามันเป็นสิ่งที่น่าจำ” ถ้าพูดผิดก็จะไม่คม อาตมามองว่าการเทศน์ Entertain เป็นการจับจุดของคนไทยที่ชอบความสนุกสนาน อย่างดี และโดน ก็จะฮิต แต่ถ้าดีแต่ไม่สนุกคนไทยไม่รับ งั้นเราลองมาสนุกซะหน่อย โดยอาตมายึดคำสอน 5 ส. สนุกคือเปิดใจ สาระนำไปใช้ สงบทำให้จิตใจสบาย สติ-สำนึกจะได้ให้เรากลับไปใช้ ”

เทศน์ครั้งแรกเป็นยังไงฮอตไหมครับ
“ ตอนนั้นอายุ 12 ปี เราเตรียมมุกพระพยอมไปขอเขาเทศน์เรื่องศีล 5 “คนเรานี่โง่ เอาปากไปคาบบุหรี่ พอคาบแล้วมันก็ อืม… (เสียงสูง) พออ้าปากมันก็หล่นลง คนเรานี่ก็โง่ไปติดมัน” ซึ่งอาตมาลืมไปว่า พระผู้ใหญ่นั่งสูบบุหรี่อยู่หลังเพียบเลย วันนั้นโยมก็ชอบมายอกันใหญ่ ทำให้เรามีความสุขมาก”

หัวใจของการเทศน์แบบ Entertain อะไรสำคัญที่สุด
“การหาข้อมูล อาตมาอ่านหมด นสพ.รับทุกเล่ม หนังสือนอกเวลา หนังสือธรรมะ นอกจากนี้ก็อาศัยดูสื่อ ดูTV เว็บไซต์ ฟังจากรุ่นพี่ ถ้าฮาก็จะจดหมด หรืออย่างการฟังเพลงก็จะได้มุกเยอะ เช่น “มีแต่คนว่าเรา ฟังธรรมะเขาว่าโง่ ฟังโปเตโต้ รักแท้ดูแลไม่ได้ ฟังวงแคลชระวังมือที่ไร้ไออุ่น ฟังธรรมแล้วจะไม่ฮอต ฟังพี่ป๊อด ระวังหมดอายุ”

หรือหากพูดเรื่องเพลงโดยมีการอิงกระแสข่าวใหม่ๆ (กรมสุขภาพจิตออกมาติง เพลง “แทงข้างหลัง”ส่อจะทำให้คนฆ่าตัวตาย)

“เราก็จะเอามาสอดแทรกเอาไว้ด้วย เช่นฟังธรรมแล้วจะไม่อกหัก แต่ถ้าฟังออฟ ปองศักดิ์ “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” อย่างบางเพลงอาตมาไม่เคยได้ยินเลย อาศัยลูกศิษย์ อาศัยการถาม-อ่าน-ดู ซึ่งแต่ละวันอาตมาหาข้อมูลจริงๆ วันละไม่ต่ำกว่า 5 ชม. ทุกเช้า อ่านนสพ.ทุกเล่มก่อน 1 ชม. ขาดไม่ได้ นอกนั้นก็เป็นการอ่านระหว่างไปงาน พอกลับมาก่อนนอนก็จะดูเว็บต่างๆ วงการนี้ตันไม่ไ ด้ยิ่งต้องออกทีวี บรรยายสดต้องแอ็กทีฟตลอด”

ตอนนี้คนเครียดจากการเมืองเยอะ อยากให้ท่านเทศน์สไตล์ท่านฟังแล้วย่อยง่ายๆ
“การเมืองเราต้องเป็นกลาง สำหรับอาตมาเนี้ยนะ ต้องเอาคนที่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่โกงนิดหน่อยก็ได้ ไม่เอานะ เราต้องเอาคนดีมีศีลธรรม ที่นี่คนดีดูยังไง โอยคุณโยมเอ๋ย…? อย่างคุณโยมไปเลือก ส.ส. ถ้า ส.ส. โกงกินเป็นตัวแทนคุณโยมนะ เขาก็จะด่าได้นะว่าคนในจังหวัดนั้นๆ มีคุณภาพประมาณนี้ ฉะนั้นถ้าไม่อยากโดนเขาด่า เราได้ก็ต้องเลือกคนดีๆ เข้าไปทำงาน เราต้องสะสมคนดี

หรือบางคนบอกว่าสะสมจตุคามฯ อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าเราไปแขวนหลวงพ่อวัดปากน้ำ แขวนจตุคามฯ คิดและพูดไม่ดี สิ่งดีๆ จะอยู่กับเราไหม ก็ไม่อยู่ อย่างมีคนมาแนะนำว่า ถ้าเช่าจตุคามฯก็ต้องราคาไม่เกินห้าร้อยบาท เพราะราคานี้ท่านจะคุ้มครองเรา แต่ถ้าใครไปเช่าราคาเป็นแสน เป็นล้าน เราต้องคุ้มครองท่าน โอย…ต้องมีปืน 2 กระบอกเลยนะ แต่ไม่ต้องเป็นแสน เป็นล้าน แค่องค์ละหมื่นก็ต้องเอามือมาคลำตลอด ดังนั้น เรามาสะสมความดี สะสมคนดีเข้าสภาเยอะๆ บ้านเมืองเราก็จะเจริญรุ่งเรือง”

ถ้าหากเป็นปัญหา เรื่อง ดารา วัยรุ่น แฟชั่น ท่านจะเทศน์สอนเยาวชนอย่างไร…?
“ดารานี่ก็ถือ ว่าเป็นไอดอลของวัยรุ่นนะ ดาราแต่งยังไง วัยรุ่นแต่งอย่างนั้น บางคน บอกว่าตอนนี้ดาราใส่กางเกงขาสั้น ฮิตกันเยอะ กระโปรงสั้นก็เยอะ จนทำให้นศ.ใส่สั้นกันมาก ชนิดจามทีกระดุมหลุดเลย เขาว่างั้น อาตมา ไปเจอมหาวิทยาลัยหนึ่ง โอย…คุณโยมเขาไม่อย่างนั้นนะกระโปรงยาวๆ เราก็ถามทำไมกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม เขาบอกหนูอยู่ปี 1ค่ะ และถ้าปี 2 เขาบอกก็ครึ่งเข่าค่ะ และถ้าปี 3 ก็เลยเข่าขึ้นมา และปี 4 ละ โถ…(เสียงสูง) พระอาจารย์ก็อย่าถามเซ้าซี้ คิดเองได้ไหมค่ะ

อ้อ ! กระโปรงสั้นตามระดับความอายที่ลดลง เออ ! พระน่าจะอย่างนี้บ้างนะลูกนะ อย่างพรรษาเนี่ยจีวรยาวถึงตาตุ่มเลย พรรษา 2 ก็ครึ่งเข่าเห็นขนขาเป็นเรียวงาม พรรษา 3 เลยเข่าขึ้นมา เราก็บอกว่าเสื้อผ้าไม่ได้เกี่ยวกับสมอง แต่มันเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ดีงาม ฉะนั้นสิ่งไหนที่ดาราดีงามแล้วเราก็เลียนแบบได้ ดูอย่าง หม่ำ เขาให้เกียรติคน ตรงต่อเวลา กว่าจาพนมจะโด่งดังเป็นโทนี่จา โหย เลี้ยงช้าง ไถนา กว่าจะมาเป็นสตันต์ และเดินเขาหาโอกาส เอาปมด้อยพัฒนาตัวเอง ฉะนั้นเรามาดูตรงนี้อันไหนเป็นสิ่งไม่ดีดาราคนไหนติดยาเสพติด ก็อย่าไปเลียนแบบ”

ปัจจุบันนี้ท่านเลือกรับกิจนิมนต์อย่างไร…?
“ ไม่เลือก ขอให้เกิน 5 คนขึ้นไป เพราะพระพุทธเจ้าเทศครั้งแรกก็มีคนฟัง 5 องค์ อัญญาโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ อัสสชิและมหานาม (รวมเรียกว่า ปัญจวัคคีย์) บางคนพูดเรื่องปัจจัย เพราะเห็นเราออกทีวี อย่าให้เป็นประเด็นเลย อาตมาเอาเวลาเป็นเกณฑ์ ไม่ได้มองว่าองค์กรใหญ่-เล็ก ถ้าว่างไปหมด ส่วนใครที่ไม่ได้คิวก็อย่าน้อยใจไปละ เพราะคิวอาตมาเต็มไปจนถึงปีหน้า แต่ก็ยังมีทีมงานธรรมดีลิเวอรีอีกมากมาย นี่ใครอ่านแล้วก็เงียบๆ ไว้นะ (กระซิบ) ทีมอาตมาเก่งมาก เพียงแต่ไม่ว่าไม่ได้ออกทีวีเท่านั้น”

ปัจจุบันงานชุกแค่ไหน
“เดือนนี้ก็ 240 งานฮะ ไม่รู้ว่ามาไง”

งานประเภทไหนได้รับกิจนิมนต์มากที่สุด
“ตอนนี้ป็นเอกชน ห้างร้าน แต่ถ้าเมื่อก่อนจะเป็นโรงเรียน แต่เดี๋ยวนี้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ซะเยอะ
ถ้าให้เดาคงเพราะปัจจุบันคนไม่มีทางออกและเครียดมากขึ้น ซึ่งอาตมาก็จะแนะนำเคล็ดลับ

“วันนี้อย่าทำนมหก” เคล็ดทำลายความทุกข์ หลายคนฟังแล้วร้องว้ายเลยคาถาอะไร…? อย่าทำนมหกคุณโยมลองเขียนเรียงกันลงมา อย่า –อย่าท้อเมื่อพลาดพลั้ง ทำ- ทำความหวังขึ้นมาใหม่ นม- นมนานสักแค่ไหน หก-หกล้มไปเจ็บชั่วคราว วันนี้คุณอย่าทำนมหกแล้วหรือยัง…?

“คือเทคนิคการเทศน์ให้สนุกและดีแบบนี้ แบบมีให้ลุ้น แต่ก็ต้องระวังว่าอย่าให้ 2 แง่ 2 ง่ามนะ และไม่หยาบคาย อันนี้เป็นสิ่งที่พระพยอมสอนอาตมา ท่านบอกว่าถ้าทำได้จะเป็นพระนักพูดที่อมตะ”

มีคนบอกว่าท่านเป็นพระพยอม 2 ท่านคิดอย่างไรครับ…?
“ปลื้มใจ ดีใจ อันนี้ก็ไม่กล้ารับตำแหน่งนะ เพราะท่านทำความดีมาเยอะ ท่านเป็นโมเดล เป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจทั้งหมดของอาตมา”

ติดต่อสอบถามวิธีการรับกิจนิมนต์ทีมวิทยากร “ธรรมะดิลิเวอรี”
โทร.08-6535-3721, 08-5805-4638, 08-63219999

หนังสือคลายเครียดของ พระมหาสมปอง

1. หนังสือทุกเล่มของหนุ่มเมืองจันทร์ ฟาสต์ฟูดธุรกิจ
2. หนังสือต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ บัณฑิต อึ้งรังษี
3. หนังสือ พระราชอารมณ์ขัน ของในหลวง
4. หนังสือทุกเล่มของโน้ตอุดม
5. หนังสือทุกเล่มของพระพยอม
6. หนังสือทุกเล่มของ อ.จตุพล ชมพูนิช
7. หนังสือผู้ชายเลวกว่าหมา ของกาละแมร์
8. หนังสือธรรมะของท่านพุทธทาส หลวงพ่อปัญญานันทภิขุ และ พระพรหมคุณภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ทุกๆ เล่ม
9. หนังสือทุกๆ เล่มของท่าน ว. วชิรเมธี

************

ตลกปัญญาชน 5 เรื่องที่ควรหามาชม

Top Secret! (1984)

ก่อนหน้า Austin Powers และ Date Movie จะถือกำเนิด ยังมีกลุ่มนักทำหนังที่ชื่อว่า ZAZ เจ้าของสูตรสำเร็จของหนังล้อหนัง ซึ่งไม่เน้นพล็อต ตัวละคร หรือความเป็นเหตุเป็นผลใดๆ เพราะสิ่งเดียวที่พวกเขา (สามผู้กำกับ/เขียนบท จิม อับราฮัม, เดวิด ซัคเกอร์ และเจอร์รี่ ซัคเกอร์) ต้องการ คือ ทำให้คนดูหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ถ้าต้องเลือกหนังของ ZAZ เพียงเรื่องเดียว หลายคนอาจคิดถึง Airplane! หรือ The Naked Gun แต่ผมกลับชื่นชอบผลงาน ซึ่งไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จของพวกเขาเรื่องนี้มากกว่า เป้าล้อเลียนหลักได้แก่ หนังสายลับทั้งหลายและหนังเพลงของ เอลวิส เพรสลีย์ แก๊กตลกสารพัดสารเพอัดแน่นอยู่ในทุกฉากทุกตอน จนไม่อาจระบุให้แน่ชัดไปได้ว่าไฮไลต์อยู่ตรงไหน แต่หนึ่งในนั้นเห็นจะเป็นฉากวัวกระทิงไล่กวดวัวปลอมพร้อมดนตรีประกอบจากหนัง เรื่อง Jaws

There’s Something About Mary (1998)

แบบฉบับของหนังตลกยุคใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจนทำให้หลายคนพยายามเลียนแบบ กระทั่งพยายามจะวิ่งแซงหน้าด้วยการคิดหาแก๊กตลกที่ลามกกว่า และโจ่งแจ้งกว่า แต่สุดท้ายกลับไม่มีหนังเรื่องใดเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างทรงประสิทธิภาพเท ่าผลงานชิ้นเอกเรื่องนี้ของสองพี่น้อง บ็อบบี้ กับ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ ที่เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวแสนสวยที่ใครๆ ต่างพากันตกหลุมรัก เบน สติลเลอร์ เล่นบทไอ้ขี้แพ้ได้เก่งกาจชนิดไม่เป็นรองใคร ส่วน คาเมรอน ดิแอซ ก็ดูสวยใสไร้เดียงสาได้อย่างสมจริงจนนักวิจารณ์บางสถาบันถึงขั้นมอบรางวัลนั กแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประจำปีให้เธอ หนังอุดมไปด้วยฉาก “คลาสสิก” นับสิบ ตั้งแต่การใช้น้ำกามแทนเจลแต่งผม ไปจนถึงภาพสุนัขเข้าเฝือกแบบเต็มตัว ทว่าจุดเด่นหนึ่งของหนังอยู่ตรงที่มันสามารถทำให้คนดูลุ้นเอาใจช่วยตัวเอกให ้เอาชนะใจหญิงสาวได้ในท้ายที่สุด

When Harry Met Sally (1989)
ทุกวันนี้หนังตลกโรแมนติกดีๆ สักเรื่องช่างหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่เมื่อไม่นานก่อนหน้า ผู้กำกับ ร็อบ ไรเนอร์ เคยสร้างหนังตลกโรแมนติกเรื่องเยี่ยมเอาไว้ นำแสดงโดยสองดาราที่เข้าคู่กันได้อย่างเหลือเชื่อ นั่นคือ เม็ก ไรอัน กับ บิลลี่ คริสตัล ในบทสองหนุ่มสาวที่พยายามจะค้นหารักแท้และชื่นชอบกันและกันในฐานะเพื่อน แต่ผู้ชายกับผู้หญิงสามารถเป็นเพื่อนกันโดยไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องไ ด้หรือ ฉากคลาสสิกที่ทุกคนคงจดจำได้แบบไม่มีวันลืม คือ ตอนที่ เม็ก ไรอัน พิสูจน์ให้ บิลลี่ คริสตอล เห็นว่าผู้หญิงสามารถแกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดเวลาอยู่บนเตียงได้อย่างไรกลาง ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนผู้หญิงโต๊ะข้างๆ จะสะกิดบอกพนักงานเสิร์ฟว่า “ฉันขอแบบของเธอหนึ่งที่”

Tootsie (1982)
ถ้าบรรดาหนังกะเทยแต่งหญิงของไทยมีบทที่เฉียบคมและฉลาดได้เพียงครึ่ง ของผลงานชิ้นนี้ วงการหนังไทยคงได้วิ่งฉลุยในต่างแดน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย เพราะแม้กระทั่งฮอลลีวูดเองก็ยังไม่สามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพในระดับทัดเท ียมกันออกมาได้
ผู้กำกับ ซิดนีย์ พอลแล็ค รักษาสมดุลระหว่างการเรียกเสียงหัวเราะกับเนื้อหาอันเข้มข้น จริงจัง ปนอารมณ์เฟมินิสต์นิดหน่อย (เขาเรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์ที่น่าคบหามากขึ้นจากการสวมบทบาทเป็นผู้หญิงในโ ลกของชายเป็นใหญ่) ได้อย่างพอเหมาะ ฉากฮาสุดฉากหนึ่งเป็นตอนที่ไมเคิล ในมาดโดโรธีเปิดเผยตัวเป็นครั้งแรกกับเอเย่นต์ ในร้านอาหาร แต่จะว่าไป ฉากที่พ่อของจูลี่ ตามจีบโดโรธี/ไมเคิล ก็น่าจะเรียกเสียงฮาได้ไม่แพ้กัน

Liar Liar (1997)
ความสนุกของหนังเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบ จิม แคร์รี่ มากแค่ไหน ถ้าคุณชอบแก๊กประเภทนี้ รับรองได้ว่าหนังเรื่อง Liar Liar จะกลายเป็นเครื่องจักรเรียกเสียงหัวเราะชั้นยอด เพราะบทเปิดโอกาสให้แคร์รี่ได้ปล่อยของแบบหมดเปลือก โดยไม่ต้องอาศัยเทคนิคพิเศษเข้าช่วยเหมือนใน The Mask เรื่องราวของทนายความที่โดนพรวันเกิดของลูกเล่นงานจนไม่สามารถพูดปดเป็นเวลา หนึ่งวัน แค่เห็นพล็อต คุณก็คงพอจะเดาได้ว่าหนังต้องเสียดสีและจิกกัดอาชีพหมอความกันอย่างสนุกสนาน แถมตอนจบยังแอบซึ้งได้พอเหมาะพอดี เมื่อคุณพ่อบ้างานจอมตลบตแลงเรียนรู้ที่จะหันมาใส่ใจครอบครัวให้มากขึ้น นอกจากนี้ เทคหลุดในเครดิตท้ายเรื่องก็ขำไม่แพ้ตัวหนังเลยทีเดียว มันพิสูจน์ให้เห็นว่าการตีหน้าตาย หรือเล่นตามบทนั้นเป็นเรื่องยากเย็นเหลือแสน เมื่อคุณต้องเข้าฉากประกบนักแสดงบ้าๆ อย่าง จิม แคร์รี่

ที่มาจาก Manager Metro Life

Share