Category Archives: วิธีคิด

คนที่มีรักมีอยู่ 3 ประเภท

สุกมล วิภาวีพลกุล อาหมอโอ๋ – จิตแพทย์สุดฮา
เชี่ยวชาญ อารมณ์ / ความต้องการทางเพศ / กิจกรรมทางเพศ
จิตแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท 2
วิทยากรรายการ ชูรัก ชูรส ช่อง 3
วิทยากรรายการ คลีนิครัก ช่อง 11
วิทยากรรายการ Morning Health Club ช่อง 5
เจ้าของผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คเพศศึกษา ฮาสุดขีด , ติวรักเต็มร้อย เรื่องวุ่นวายของนายจุ๊ดจู๋

เคยบอกไว้ว่า

คนที่มีรักมีอยู่ 3 ประเภท
1.มีสุขเมื่อครอบครอง
2.ฉันเธอร่วมกันสุข
3.ยอมทุกข์เพื่อสุขเธอ

พวกคุณเป็นแบบไหนกันบ้างครับ

จาก: http://www.tosdn.com/forum/index.php?topic=4018.0

Share

คำตอบของการจากลา

“ชั่วชีวิตมนุษย์…สิ่งที่บันดาลให้หดหู่ รันทด มิใช่การจำพราก…หากเป็นการอยู่ร่วม เพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้” – โกวเล้ง

อย่างที่โกวเล้งบอก ว่าการเสียใจมิใช่เกิดเพราะการจากลา
หากแต่เกิดเพราะการพบเจอ หรือ เคยอยู่ร่วมกัน

แต่ครั้นเมื่ีอชีวิตปุถุชนเดินดินแบบเรา
จะห้ามการพบเจอ การอยู่ร่วม มันคงเป็นเรื่องผิดปกติ

บ่อยครั้งผมมักขัดแย้งกับตัวเองเรื่องของพระพรหม
ฝ่ายหนึ่งคือ พรหมลิขิต ผมมักใช้ร่วมกับ ความหวัง ในอนาคต แล้วคิดว่ามันต้องเป็นจริงดั่งหวัง
แต่ฝ่ายหนึ่งคือ ผมลิขิต ผมมักใช้ร่วมกับสิ่งที่ผมทำอยู่ แล้วอยากให้เป็นอย่างที่คิด แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ผมจึงมักตีกันทางความคิดอยู่บ่อยๆ (ความคิดนี้ขอแทนด้วยตัวแปล A)

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามในความคิด A
มันทำให้เรามีโอกาสได้พบเจอใครสักคน หรือ อยู่ร่วมกับใครสักคน
และเราก็หวังต่างๆ นานากับคนๆ นั้นในเชิงบวก

เช่นกัน ของความคิด A เราก็ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้
ไม่สามารถขอร้องให้เขากลับคืนมาได้ด้วยตัวเราเอง
หากการจากลานั้นเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นแล้ว
ไม่ว่าจะด้วยเวลา ร่างกาย กรรม ฯลฯ

แล้วมนุษย์จะต้องสูญเสียอีกสักเพียงใด
มนุษย์จะเหลืออะไรนอกจากความทรงจำ

เพราะเป็นสิ่งหนึ่งในหลายๆ สิ่ง ที่เราช่วยกันลิขิตขึ้นมา

จาก http://ifew.exteen.com/20061129/entry 

Share

โลกกว้างไป หรือหัวใจเราแคบเกิน

วันเวลาที่ผ่านมา ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต
ผู้คนมากมายผ่านเข้ามา
บางคนผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป
แต่บางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น..
จากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย ล่วงเลย ไปถึงกลายเป็นคนรักกัน

เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
สถานภาพทางความรู้สึกของเราก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
บางคนยังคงความเป็นคนแปลกหน้า
ยังรักษาระยะห่างของการเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย หรือ
คนรักกันไว้ได้อย่างคงที่…
บางคน เปลี่ยนแปลงจากคนแปลกหน้า
กลายเป็นคนคุ้นเคย…
จากคนเคยคุ้น กลายมาเป็น คนรักกัน ..
ทำลายระยะห่างของความรู้สึกให้สั้นลงอย่างรู้สึกได้ …
และเมื่อนั้น เรื่องราวดี ๆ สวยงามทางความรู้สึกจึงเกิดขึ้น ..

แต่ในทางกลับกัน..
ระยะห่างของบางคน อาจห่างไกลออกไปจนสุดหูสุดตา
จากคนเคยรัก คนเคยคุ้น กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก ..
กลายเป็นคนแปลกหน้าทางความรู้สึกไป ..

แน่นอนว่า ระยะห่างของคนรู้จัก กับ คนรัก ย่อมไม่เท่ากันเป็นแน่ ..
แต่นั่นแหละ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ..
ฉันเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของเวลา
พอ ๆ กับเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก..

ไม่มีมาตราวัดใด ๆ ที่จะใช้วัดระยะห่างของความรู้สึกได้
และระยะห่างในแต่ละสถานภาพทางความรู้สึกในแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน..

เราระบุชัดไม่ได้ว่า 1 เท่ากับ 1 ในความรู้สึกของอีกคน
1 ในความรู้สึกของคนหนึ่ง อาจจะเป็น 100 ในความรู้สึกของอีกคนก็เป็นได้ ..

และในเมื่อการคบหากันเป็นปฏิสัมพันธ์ของคนสองคน
เราจึงมองเห็นความไม่ลงตัว เห็นระยะห่างที่ไม่เท่ากันของคนสองคนได้เสมอ..

กับคนบางคน เราอยากเป็นมากกว่าคนรู้จัก
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรามันสั้นลง
กับคนบางคน เราอยากเป็นน้อยกว่าที่เป็นอยู่
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรายาวไกลออกไป..
แต่กับบางคนเรากลับอยากจะรักษา ระยะห่าง ตรงกลาง ไว้ให้คงที่
ไม่ให้ห่างหาย จางหนี หรือ เข้ามาใกล้จนเรารู้สึกอึดอัด..

เคยรู้สึกใช่ไหมว่า ..
ขณะที่เราเดินเข้าหา บางคนกลับกำลังเดินหนี
กับบางคนเรากำลังเดินหนี บางคนกลับเดินตาม…
กับบางคนเราก็ต้อ! งการระยะห่างประมาณหนึ่ง ไม่ต้องใกล้มาก
แต่ไม่ต้องการห่างหายไปไหน..

ขณะที่บางคนวิ่งตาม
ล้มลุกคลุกคลานและเจ็บปวดกับระยะห่างของอีกคนที่ทิ้งไว้ตรงหน้า
และขณะเดียวกันกับที่อีกคนก็วิ่งหนี
โดยไม่คิดจะหันกลับมามองความเจ็บปวดของอีกคน
อะไรก็เกิดขึ้นได้ กับความรู้สึกคน..
เหนื่อยแสนเหนื่อย ล้าแสนล้า แต่สุดท้ายก็ยังพยายาม
พยายามที่จะยื้อยุดฉุดดึงอยู่เช่นนั้น
บางคนปล่อยความรู้สึกของอีกคนไว้ บนความห่าง ห่างจนลับตา ..
ไม่เคยหันกลับมามองหรือรับรู้ความเป็นไปของอีกคน ..
ไม่เคยรับรู้ว่า
ระยะห่างที่เขาทิ้งไว้อีกคนมันสร้างความเจ็บปวดได้ประมาณไหน
แต่ก็มีบางคนที่เหนื่อยล้ากับระยะห่างที่พยายามรักษาไว้เพียงแค่นั้น
ไม่ต้องห่างไป แต่ เข้าใกล้กว่านี้ไม่ได้ ..
ต้องการเพียงเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบ

การทำลายระยะห่างของคนสองคนอาจไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนักสำหรับอีกหลาย ๆ คน…
บางคนพยายามมาเกือบทั้งชีวิต..
ระยะห่างที่ว่าก็ยังคงห่างอยู่เช่นเดิม..
ขณะที่บางคนอยู่นิ่ง ๆ ไม่วิ่งหนี ไม่วิ่งตาม
ปล่อยทุกอย่าง! ให้เป็นหน้าที่ของเวลา
ไม่เรียกร้องให้เกิดความคาดหวัง
ไม่ปล่อยละเลยจนเหมือนชาเฉย…
ระยะห่างนั้นกลับขยับเข้ามาใกล้ราวปฏิหารย์..

เอาใจช่วยสำหรับคนที่กำลังพยายามเดินเข้าหา
ให้อีกคนหันกลับมามองบ้าง ระยะห่างจะได้สั้นลง พยายามต่อไป
เพราะวันหนึ่งคุณอาจรู้สึกว่าความพยายามของคุณมิได้ไร้ค่า
ร้องขอสำหรับคนที่กำลังเดินหนี ให้หันกลับมามองความรู้สึกของอีกคนบ้าง

เพราะบางทีคุณอาจจะสูญเสียอะไรดี ๆ ไปเพราะระยะห่างที่คุณทิ้งไว้ให้อีกคน
เห็นใจกับการรักษาระยะห่างให้คงที่สำหรับบางคน
เพราะบางทีมันก็ทรมานมากกว่า การพยายามเดินเข้าใกล้หรือห่างหนี..เสียอีก..

แล้วคุณ ๆ เล่า เคยนึกย้อนกลับมามอง ระยะห่าง
ของคุณกับผู้คนรอบตัวกันบ้างไหม..
เคยรู้สึกไหมว่า บางที ความห่างไกล กับ ระยะห่างของความรู้สึก
กลับเป็นตัวแปรผกผันกัน
เคยรู้สึกได้ถึงระยะห่างทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ ๆ
หรือรู้สึกใกล้กันแล้วทางความรู้สึกทั้งที่ตัวอยู่แสนไกล กันบ้างไหม.

เคยคิดกันบ้างไหมว่า ระหว่างคนพยายามเดินหนี คนที่พยายามเดินตาม
และคนที่พยายามยังไงระยะห่างกลับ! เท่าเดิม คนไหนเจ็บปวดไปกว่ากัน …

อาจเป็นเพราะ .. โลกกว้างเกินไป
หรือไม่ .. หัวใจเราแคบเกิน

จาก forward mail

Share